สุขภาพกับความสวยความงาม

สิ่งดีๆสำหรับชีวิต

สวยง่ายๆด้วยดินสอฟอง

>> วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

ดินสอพองเป็นดินที่มีคุณสมบัติทำ ให้ผิวสวย โดยจะดูดซับความมันและช่วยกำจัดสิวเสี้ยนได้ สาว ๆ หลายคนจึงมักใช้ดินสอพองพอกหน้า ซึ่งเป็นสูตรที่มีมาตั้งแต่โบราณ แต่นอกจากจะใช้ดินสอพองเพียว ๆ พอกหน้าแล้ว สาว ๆ สามารถเพิ่มคุณค่าในการบำรุงผิวเข้าไปได้ด้วยสารพัดสูตรเพื่อผิวสวย ดังนี้
   1. สูตรดินสอพองมะนาว หยดมะนาว 4-5 หยดลงบนดินสอพอง จากนั้นนำมาพอกหน้า 20 นาที จะช่วยดูดซับความมัน และทำให้ผิวสว่างใสขึ้น ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง จะเห็นผลเร็วค่ะ




   2. สูตรดินสอพองน้ำผึ้ง นำดินสอพองมาผสมน้ำ จากนั้นผสมด้วยน้ำผึ้ง นำไปพอกหน้า 15-20 นาที ทำให้ผิวเปล่งปลั่งและเนียนนุ่มขึ้น สามารถทำได้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง สำหรับผู้ที่มีผิวมัน แต่สำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง สัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอค่ะ

   3. สูตรดินสอพองขมิ้น นำดินสอพองมาผสมน้ำขมิ้น แล้วพอกหน้าไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออก ขมิ้นจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้ และทำให้ผิวสดใสเปล่งปลั่ง ใช้ได้กับทุกสภาพผิว

   4. สูตรดินสอพองน้ำมันมะพร้าว นำดินสอพองมาผสมกับน้ำมันมะพร้าวให้ข้น แล้วพอกหน้าไว้ประมาณ 20 นาที จะช่วยกระชับรูขุมขนและทำให้ผิวหน้าเต่งตึง เนียนสวย และหลังจากใช้ดินสอพองพอกหน้าแล้ว ก็สามารถนำน้ำมันมะพร้าวมาทาผิวได้อีก เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นค่ะ

Read more...

เมนูเด็ดมะรุม

มะรุม เป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณในหลายด้าน เช่น ราก จะมีรสเผ็ด หวาน ขม แก้อาการบวม บำรุงไฟธาตุ เปลือก จะมีรสร้อน ช่วยขับลม ใบ ช่วยแก้เลือดออกตามไรฟัน แก้อักเสบ ดอก ช่วยบำรุงร่างกาย ขับปัสสาวะ ขับน้ำตา ฝัก รสหวาน แก้ไข้หรือลดไข้ เป็นต้น
ส่วนที่ใช้ : เปลือกต้น ราก ฝัก ใบ เนื้อในเมล็ด
สรรพคุณ :
ฝัก  -  ปรุงเป็นอาหารรับประทานแก้ไข้หัวลม                                                                                                                                     เปลือกต้น - มีรสร้อน รับประทานเป็นยาขับลมในลำไส้ ทำให้ผายหรือเรอ คุมธาตุอ่อนๆ (ตัดต้นลมดีมาก)
ราก - มีรสเผ็ด หวานขม แก้บวม บำรุงไฟธาตุ มีคุณเสมอกับกุ่มบก
      - แก้พิษ ฝี แก้ปวด แก้อักเสบ
แพทย์ตามชนบท ใช้เปลือกมะรุมสดๆ ตำบุบพอแตกๆ อมไว้ข้างแก้ม แล้วรับประทานสุราจะไม่รู้สึกเมาเลย
จากประสบการณ์ เนื้อในเมล็ดมะรุม ใช้แก้ไอได้ดี ใบสดมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ มีแคลเซียม วิตามินซี แร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก การรับประทานเนื้อในเมล็ด และใบสดเป็นประจำสามารถเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกายได้
ข้อควรระวัง ในคนที่เป็นโรคเลือด G6PD ไม่ควรรับประทาน

เมนูมะรุม

ใบมะรุม
นำมาผัดกับหมู หรือกุ้ง ทำแกงจืดใบมะรุมกับหมูสับ หรือจะใช้แกงแบบแกงขี้เหล็กก็ได้

ยอดอ่อนใบมะรุม
นำมาเป็นเครื่องเคียง รับประทานกับน้ำพริก แจ่ว จะลวกหรือรับประทานสดๆก็ได้

ดอกมะรุม
นำมาทำไข่เจียวดอกมะรุม ยำดอกมะรุม ใส่ในแกงส้ม ต้มกับน้ำเป็นชาดอกมะรุมหอมชื่นใจ

ฝักมะรุม
มีการนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่างเป็นที่นิยมกันมาก คือนำฝักอ่อนมะรุมมาแกงส้มกับปลาช่อน แกงเหลือง แกงคั่วใต้ แกงอ่อมมะรุม แกงจืด แกงเผ็ดหมูกับมะรุม มะรุมผัดเต้าเจี้ยว มะรุมผัดเปรี้ยวหวาน หมูอบมะรุม แกงกระหรี่ผักมะรุม ส่วนเมล็ดอ่อนมะรุมนำมายำก็อร่อยมาก

Read more...

สูตรล้างพิษ 1 วัน

หัวใจสำคัญในการล้างพิษใน 1 วัน คือ จะต้องกินให้ได้แคลอรี่น้อยกว่า 800 แคลอรี่ เพื่อให้ระบบย่อยและตับได้พัก ต่อจากนั้นตับจะขับสารพิษออกมาได้และอาหารที่คุณจะทานในวันนั้นจะต้องไม่มี เนื้อสัตว์เข้ามาปะปนเด็ดขาด เข้าใจกันดีแล้วต่อไปเรามาเข้าสู่กระบวนการล้างสารพิษกันเลยดีกว่า


1. เลือกผลไม้ที่คุณชอบมา 1 อย่างเช่น มะละกอ ฝรั่ง แคนตาลูป แอปเปิ้ล ส้มโอ ชมพู่ มะม่วง ฯลฯ ยกเว้นอยู่ 2 อย่าง คือ ทุเรียนและสับปะรด เพราะทุเรียนมีแคลอรีสูงเกินไปและย่อยยากทานแล้วจะเป็นภาระกับระบบย่อย ส่วนสับปะรดนั้นมีกรดสูงมากถ้ากินทั้งวันท้องก็จะอืดได้



2. ทานแต่ผลไม้ชนิดเดียวตลอดทั้งวัน โดยอาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ เช่น ถ้าเลือกมะละกอก็อาจจะทานเป็นเนื้อมะละสุกหรือส้มตำ (มะละกอดิบ) ที่ใส่แต่มะละกอกับน้ำปลามะนาวเท่านั้นไม่ใส่เครื่องประกอบอย่างอื่นเด็ดขาด


3. พอมาถึงมื้อกลางวันก็ทานมะละกออีก แต่อาจจะเป็นน้ำมะละกอปั่นใส่น้ำตาลน้อยที่สุดหรือน้ำมะละกอคั้นสดก็ได้


4. มื้อเย็นก็ยังต้องทานมะละกออีกครั้งเป็นมื้อสุดท้ายของวัน โดยอาจจะบีบมะนาวลงไปด้วยนิดหน่อยเพื่อเพิ่มรสชาติให้ไม่เลี่ยนเกินไป


5. วันรุ่งขึ้นก่อนที่จะเริ่มมื้อเช้าคุณจะต้องดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นประมาณ 2 ขวดก่อน เพราะเมื่อเราล้างสารพิษตับจะขับสารพิษให้มารวมกันอยู่ที่ลำไส้เล็กส่วนต้น จึงต้องดื่มน้ำอุ่นผสมมะนาวเข้าไปกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวเพื่อให้สารพิษถูก ดันออกมากับอุจจาระหลังจากที่ดื่มน้ำอุ่นแล้วคุณจะรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ ทันที แต่ถ้าไม่มีการดื่มน้ำกระตุ้นและไปทานอาหารเช้าสารพิษก็จะถูกดูดกลับเข้าไป ในกระแสเลือดเหมือนเดิมทำให้การอดอาหารล้างพิษของเราต้องเสียเปล่าไป

Read more...

อาหารไม่เสริมแต่บำรุงผิว

อาหารเสริมบำรุงผิวนั้นสามารถหากินได้ง่ายมาก


1. โปรตีนจากปลาทะเลลึก (Marine Protein)
แถบ ประเทศนอร์เวย์ประกอบด้วยอณูอะมิโนจำเป็นต่อร่างกาย 18 ชนิด และมีอณูอะมิโนชนิดพิเศษคือ Peptoaminoglycan ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอิลาสตินทั้งด้าน ปริมาณและคุณภาพอันจะช่วยให้ผิวแต่งตึง เปล่งปลั่ง กระชับ เรียบเนียน และนวลนุ่มชุ่มชื่น








2. โคเอ็นไซม์คิวเทน (Coenzyme Q 10) สาร อาหารช่วยเสริมพลังงานให้กับเซลล์ผิวต้านอนุมูลอิสระต้นเหตุของการเสื่อม สภาพและแก่ก่อนวัยของเซลล์ต่าง ๆ ทั้งยังช่วยลดและชะลอริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยที่เกิดจากแสงแดดช่วยให้ผิวดู อ่อนเยาว์สดใสมีชีวิตชีวา
ราสามารถพบ โคเอนไซม์ คิวเทน จากอาหารต่างๆ เช่น เนื้อปลา เนื้อวัว เครื่องในสัตว์ ถั่วเปลือกแข็ง แต่ในระหว่างการปรุงอาหารโดยใช้อุณหภูมิสูง เช่น การปิ้ง ทอด ย่าง ซึ่งทำให้ โคเอนไซม์ คิวเทน ถูกทำลายไป การได้รับ โคเอนไซม์ คิวเทนจากอาหารเสริมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย
3. สารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศส (French Maritime Pine Bark) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอย่างยิ่งยวด (Super Antioxidant) ช่วยต้านความชราของผิวพรรณยับยั้งการเกิดเม็ดสีที่ผิดปกติต้นเหตุของฝ้า กระ ความหมองคล้ำ ทำให้ผิวขาวเนียนสดใส และมีเลือดฝาด

4. วิตามินซี (Vitamin C)
สาร ต้านอนุมูลอิสระลดอาการหมองคล้ำ ความร่วงโรย เสริมสร้างปริมาณและความแข็งแรงของคอลลาเจน ช่วยให้โครงสร้างผิวพรรณแข็งแรงสุขภาพดีมีความยืดหยุ่นกระชับและขาวเนียนใส



5. วิตามินอี (Vitamin E) สารต้านอนุมูลอิสระอีกตัวหนึ่งยับยั้งความเสื่อมชราของเซลล์ต่าง ๆ ช่วยให้ผิวพรรณเนียนนุ่มชุ่มชื่น สดใสและดูอ่อนวัย



6. สารสกัดจากชาเขียว (Green Tea Extract) มีสาระสำคัญคือ คาเตซินช่วยต้านอนุมูลอิสระทำให้กลไกในการฟื้นฟูสภาพผิวทำงานได้ดีสามารถขับถ่ายและล้างพิษออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น

Read more...

ผิงสวยด้วยสนุนไพรใกล้ตัว

สมุนไพรบำรุงผิวหน้า


          1.ว่านหางจระเข้ : บำรุงผิว ป้องกันฝ้า ลบรอยจุด      ด่างดำ รักษาสิว

          2.แตงกวา : สมานผิว ลบรอยเหี่ยวย่น

          3.มะเขือเทศ : สมานผิว ลดรอยเหี่ยวย่น จุดด่างดำ
 
          4.ขมิ้นสด : บำรุงผิวหน้าผุดผ่องสดใสอ่อนวัย  และช่วยให้สิวยุบเร็ว
     5.กล้วยน้ำว้าสุก : บำรุงผิวนุ่มเนียนอ่อนวัย

      6.หัวไชเท้า : ช่วยลดรอยฝ้าและกระให้จางหาย

Read more...

กินอาหารอย่างไรดี

การรับประทานอาหารให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมีสุขภาพดี แข็งแรง อายุยืน ตามหลักกินอาหารต้านแก่ ว่า

1.ต้องรับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อ ถ้าเป็นไปได้ อยากให้กิน 3 มื้อหลัก และอีก 2 มื้อเป็นอาหารกินเล่น

2.รับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่

3.พยายามกินอาหารที่เป็นวัตถุดิบให้มากที่สุด และอย่าปรุง แต่ง รส อาหารให้มาก ไม่ว่าจะหวานจัด เค็มจัด เพราะอาหารรสจัดทำลายระบบการย่อยและการดูดซึมของร่าง กาย เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ทำให้ร่างกายเกิดภาวะไส้รั่วนั้นคือ ภาวะที่ผนัง เยื่อบุลำไส้มีความผิดปกติ ทำให้มีร่องเกิดขึ้นตามผิวเยื่อบุ เมื่อรับประทานอาหารลงไปแทนที่จะถูกย่อยและดูดซึมเข้ าไปในร่างกาย แต่ร่างกายจะอ่านค่าเป็นสิ่งแปลกปลอม ทำให้เกิดการแพ้ ระบบต่างๆ ที่อ่อนแอ ทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเพ้อ หรือกรดไหลย้อนกลับ ซึ่งพบมากในปัจจุบัน

4.อย่ารับประทานอาหารซ้ำกันบ่อยๆ ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน

5.ให้เวลาในการรับประทานอาหาร อาหารช่วยไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย แต่เมื่อถ้ารับประทานอย่างรีบเร่ง ไม่เคี้ยวให้ละเอียด ก็จะทำให้การย่อยและการดูดซึมมีปัญหา ต่อให้เราจัดอาหารในแต่ละมื้อได้ดีแค่ไหน ก็ไปใช้ไม่ได้

6.ดื่มน้ำให้มาก อย่าดื่มน้ำชา กาแฟ น้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

Read more...

กินต้านแก่

พืชผักอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและหาได้ง่ายอย่างผักและผลไม้สดต่างๆ


          1. มะเขือเทศและซอสมะเขือเทศ มีสารที่เรียกว่า ไลโคปีน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ มะเร็งบางชนิด และโรคจอประสาทตาเสื่อม

          2. มันเทศ ฟักทอง และแครอต กินผักและผลไม้สีเหลืองอย่างน้อยวันละสองถ้วย จะช่วยให้ร่างกายได้รับเบตาแคโรทีน จำเป็นต่อผิวหนังและดวงตา ช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำลาย หรือแม้แต่ลดริ้วรอยได้

          3. บูลเบอร์รีและองุ่นม่วง มีสารแอนโทไซยานินช่วยกระตุ้นความจำและการรับรู้

          4. บรอกโคลี มีสารซัลโฟราเฟนช่วยชำระล้างสารพิษในร่างกาย โดยเฉพาะบรอกโคลีต้นอ่อนที่มีอายุเพียงแค่ 3 วัน

          5. ผักโขมและผักใบเขียว ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ถึง 11 เปอร์เซ็นต์

          6. ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน และปลาทูน่า รับประทานปลาที่มีโอเมกา 3 สองมื้อต่อสัปดาห์ทำให้หัวใจมีสุขภาพดี ช่วยลดปัญหาเรื่องการทำงานของสมองเสื่อมตามวัยได้

          7. แอปเปิล (ทั้งเปลือก) มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องสมองจากการถูกทำลาย

          8. ชาเขียว เช่นเดียวกับชาดำ ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม

          9. ขิง ขมิ้น และเครื่องเทศ ช่วยป้องกันการเกิดโรคเรื้อรัง ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์

          10. ช็อกโกแลต โกโก้ช่วยลดคอเลสเตอรอลแอลดีแอล และลดความเสี่ยงจากเลือดจับตัวเป็นก้อน

          11. ไข่ ลืมข้อเสียเรื่องคอเลสเตอรอลที่เคยเชื่อกันมานานนมไปได้เลย เพราะไข่มีครบทั้งเกลือแร่ วิตามิน และโปรตีน ไข่แดงยังอุดมไปด้วยคาโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม

Read more...

About This Blog

Lorem Ipsum

  © Blogger templates Palm by Ourblogtemplates.com 2008

Back to TOP